ชื่ออื่น ๆ : พิมเสนต้น (ภาคกลาง), ฉิกแชเกี่ยม, ฮวยเฮียะแกโต่วเถียง (จีน)
ชื่อสามัญ : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barleria lupulina Lindl.
วงศ์ : ACANTHACEAE
ลักษณะทั่วไป :
-
ต้น : เป็นพรรณไม้พุ่ม แตกกิ่งก้านสาขามากมายรอบ ๆ ต้น มีสีน้ำตาลอมเขียว ลำต้นสูงประมาณ 2 เมตร
-
ใบ : เป็นไม้ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบเรียวแคบ ปลายใบแหลม โคนใบเรียวเล็กจนถึงก้านใบ ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยง พื้นใบมีสีเขียวเข้มและมัน เส้นกลางใบสีแดง ใบยาวประมาณ 1.5-3.5 นิ้ว ก้านใบสั้นและที่โคนก้านมีหนามแหลมหนึ่งคู่สีม่วงชี้ลง
-
ดอก : ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกมีใบประดับขนาดใหญ่ซึ่งจะเรียงกันเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียว ปลายใบสีม่วงแดง ดอกมีสีส้มและสีเหลือง มี 5 กลีบแบ่งออกเป็นกลีบบนและล่าง กลีบบนจะมี 3 กลีบและกลีบใหญ่กว่ากลีบล่าง 2 กลีบ
-
ผล : เป็นฝัก รูปมนรี แบนและยาว ภายในผลมีเมล็ด 2-4 เม็ด
การขยายพันธุ์ :
-
เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยและมีความชุ่มชื้น ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ส่วนที่ใช้ :
สรรพคุณ :
-
ใบ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยเช่น ผึ้ง แมงป่อง ตะขาบ แผลฟกช้ำจากการกระทบกระแทก หรือแผลมีเลือดออก ให้ใช้ใบตำพอกหรือผสมกับเหล้าตำพอก และอาจจะใช้ต้มน้ำกิน ทำให้เลือดไหลเวียนดี
ข้อห้ามใช้ :
-
สตรีที่มีครรภ์ห้ามรับประทาน
อื่น ๆ :
-
ในมาเลเซีย ใช้แก้ปวดฟันและแก้งูกัด ส่วนในประเทศไทย ใช้แก้พิษงูเห่ากัด โดยที่ใช้ตำพอกปากแผลส่วนหนึ่ง แล้วผสมเหล้ากินส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นเพียงการยืดเวลาก่อนที่จะไปหาหมอ รากฝนทาแก้พิษตะขาบ พิษงู แมงป่อง
ตำรับยา :
-
แมลงสัตว์กัดต่อยเช่นพวก แมงป่อง ตะขาบให้ใช้ใบสดผสมกับเหล้าตำพอกตรงบริเวณที่เป็น
สารเคมีที่พบ :
-
ใบและก้านมีสารประกอบพวก iridoid glycosides
อ้างอิง : วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.พจนานุกรมสมุนไพรไทย. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพ ฯ : รวมสาสน์ (1977), 2548.